ยี่ห้อของกีต้าร์

ยี่ห้อของกีต้าร์

       

       ยี่ห้อและประเภทของกีตาร์ที่แนะนำในวันนี้ มี2 ประเภทค่ะ^^

       1.ประเภทโฟล์ค

     1.1 YAMAHA คุณภาพปานกลางไปถึงสูง ซื้อง่าย ขายคล่อง

     1.2 TAKAMINE เป็นกีตาร์โฟล์คจัมโบ้ ที่ราคาไม่สูงมากนัก แต่คุณภาพไร้ที่ติ

     1.3 WASHBURN คุณภาพปานกลางค่อนข้างสูง

     1.4 OVATION อันนี้เป็นกีตาร์ตระกูลหลังเต่าค่ะ แนะนำว่าถ้าบ้านไม่รวยจริงไม่ควรซื้อมาใช้ เพราะอย่างถูกๆ ก็เหยียบครึ่งแสนเข้าไปแล้ว คุณภาพเสียงไม่ต้องพูดถึง ศิลปินล้านนาผู้ล่วงลับ อย่าง             “จรัญ  มโนเพ็ชร” เขาใช้กีตาร์ยี่ห้อนี้ได้คุ้มมาก

      

       2. ประเภทไฟฟ้า

     2.1 YAMAHA   ยอดนิยมในทางโฟล์ค แต่ไม่นิยมในทางไฟฟ้าเท่าไร แต่ราคาก็ไม่สูงนัก แนะนำราคาตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทขี้นไป

     2.2 GIBSON “กีตาร์ฮีโร” นักกีตาร์ชื่อดังใช้ยี่ห้อนี้เยอะ ไม่ว่าจะเป็น BB KING  , “เคิล เชงเกอร์” มือกีตาร์แห่งวงแมงป่องผยองเดชหรือสกอเปียน , “พี่ป้อม อัสนี โชติกุล” ก็ใช้

     2.3 STANDARD ยี่ห้อนี้ราคาตั้งแต่ สองหมื่นบาทขึ้นไป

     2.4 FENDER หนึ่งในกีตาร์ฮีโร ยี่ห้อนี้หลายรุ่นหลายทรงมาก

     2.5 IBANEZ กีตาร์สำหรับคนที่ชอบโซโล  ราคาหมื่นกว่าบาทขึ้นไป

     2.6 WASHBURN นูโนแห่งเอ็กซ์ทรีมใช้กีตาร์ยี่ห้อนี้  ราคาตั้งแต่ห้าพันขึ้นไป..

cr.https://guitarlovely.wordpress.com

 

กีต้าร์ที่คนนิยมใช้

กีต้าร์ที่คนนิยมใช้มากที่สุด

       กีต้าร์ที่คนนิยมเล่นมากที่สุด คือ กีต้าร์โปร่ง เพราะกีต้าร์โปร่งเล่นง่าย  พกพาสะดวก ไม่เกะกะ กีต้าร์โปร่งจะมีโอกาสใช้งานจริงมีมากกว่า เช่น ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อน ๆ เราก็แบกไปเล่นได้เลย แต่ถ้าเป็นกีต้าร์ไฟฟ้า ใช้ซ้อมกับวงซ้อม นาน ๆทีจะได้เล่นซักงาน ตัวอย่างหน้าตาของกีต้าร์โปร่ง เป็นแบบนี้ค่ะ ^^

ขอบคุณ https://www.google.co.th/

คอร์ดกีต้าร์ ขั้นแรก

คอร์ดกีต้าร์ ขั้นแรก
       ในหน้านี้ขอมอบให้สำหรับผู้ที่เริ่มเล่นกีต้าร์ รู้จักคอร์ดแต่ละคอร์ดในกีต้าร์ก่อนนะคะ  เราจะแบ่งเป็น major chord ทั้งหมด 5 คอร์ด ซึ่งก็คือ C D E G A และ minor chord อีก 3 คอร์ด คือ Dm Em Am วิธีจับก็ตามรูปข้างล่างเลยค่ะ

ขอบคุณannne2541.wordpress.com

       ถามว่าทำไมต้องเป็น 8 คอร์ดนี้? คำตอบก็คือ คอร์ดเหล่านี้เป็นคอร์ดเปิด (open chord) ทั้งหมด ซึ่งก็คือไม่มีอันไหนเป็นคอร์ดทาบ (barred chord) เลย คอร์ดทาบจะเป็นคอร์ดที่ต้องใช้นิ้วของเราทาบไปที่ fretboard กีตาร์เพื่อที่จะกดสายกีตาร์พร้อมๆ กันหลายๆ เส้น คนที่เพิ่งเริ่มหัดเล่น นอกจากมีปัญหาเรื่องเจ็บนิ้วเมื่อเล่นไปได้ซักพัก แรงที่นิ้วจะยังไม่ค่อยมี ทำให้จับคอร์ดทาบไม่ได้ พอดีดแล้วเสียงที่ออกมาไม่ครบทุกเส้น หรือที่เราเรียกกันว่า บอด (mute) นั่นเอง

       คนที่เพิ่งหัดเล่นใหม่ๆ ควรจะจำ shape ของคอร์ดเหล่านี้ให้ขึ้นใจและฝึกเล่นจนเปลี่ยนคอร์ดได้คล่อง เพราะคอร์ดเปิดเหล่านี้เป็นพื้นฐานในการกดคอร์ดทาบอื่นๆ ถ้าใครเล่นคอร์ดเหล่านี้ได้จนคล่องแล้ว ก็ให้เริ่มเล่นคอร์ดทาบ บวกกับความเข้าใจทฤษฎีดนตรีอีกนิดหน่อย ก็ไม่ต้องมานั่งจำตำแหน่งคอร์ดทาบใหม่แล้วค่ะ

 ขอบคุณhttps://www.google.co.th/

       และเวลาที่ strum คอร์ด อยากให้เพื่อนๆ ฟังดูให้มั่นใจว่าทุกสายควรมีเสียงออกครบรึป่าว ไม่ได้มีสายใดที่เสียงบอด ถ้ามีให้ลองขยับข้อมือดู ถ้ารู้สึกว่าข้อมือดันเข้าหาตัวมากๆ กดแล้วก็จะไม่ถนัดทำให้บอดได้ หรือลองพยายามโก่งนิ้วมากขึ้น และที่สำคัญ เวลากดสายกีตาร์ ส่วนที่สัมผัสสายกีตาร์ต้องเป็นด้านบนสุดของนิ้ว ดังรูป

cr.http://chordcafe.com/

ประเภทของกีต้าร์

ประเภทของกีต้าร์ 

1.กีตาร์โปร่ง หรือ อาคูสติกกีตาร์ ก็คือกีตาร์ที่มีลำตัวโปร่งไม่ต้องอาศัยไฟฟ้าในการเล่น สามารถที่จะพกพาไปเล่นได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรเลย   กีต้าร์โปร่งสามารถแบ่งได้ดังนี้
          -กีตาร์คลาสสิก (Classic Guitar) เป็นต้นแบบของกีตาร์ในยุคปัจจุบันซึ่งมีลักษณะเด่นก็คือมีลูกบิดและแกนพันสายเป็นพลาสติก มีคอหรือฟิงเกอร์บอร์ดที่ใหญ่คือประมาณ 2 นิ้วลักษณะแบนราบ และใช้สายเอ็นหรือไนล่อน ส่วน 3 สายบน(สายเบส) จะทำด้วยไนล่อนหรือใยไหมแล้วพันด้วยเส้นโลหะเช่นเส้นทองแดงหรือบรอนซ์ ซึ่งทำให้มีความนุ่มมือเวลาเล่นไม่เจ็บเหมือน สายโลหะ จึงเหมาะกับคนที่อยากหัดกีตาร์แต่กลัวเจ็บนิ้ว

          -กีตาร์โฟล์ค ถือว่าเป็นที่นิยมและรู้จักกันมากที่สุดเนื่องจากหาซื้อง่ายราคาไม่แพงจนเกินไป สามารถฝึกหัดได้ง่ายไม่ต้องรู้ถึงทฤษฎีดนตรีมากนัก ใช้สำหรับเล่นเพลงง่าย ๆ ฟังกันในหมู่เพื่อนฝูงได้แล้วแต่จริง ๆ กีตาร์โฟล์คมันมีอะไรมากกว่านั้น

2.Arch top กีตาร์  เป็นกีตาร์อีประเภทหนึ่งที่บ้านเราอาจจะไม่ค่อยเห็นคนเล่นมากนักลักษณะจะคล้ายๆกับกีตาร์โฟล์ค แต่ด้านหน้าจะโค้ง ซึ่งกีตาร์โฟล์คจะแบนราบ และโพรงเสียงจะไม่เป็นแบบช่องกลม แต่จะเป็นรูปตัว f อยู่ 2 ช่องบนด้านหน้าของลำตัว ส่วนสะพานยึดสายด้านล่างมักเป็นแบบหางปลา ใช้เล่นในดนตรีแจ๊ส

3.Semi Acoustic กีตาร์ เป็นกีตาร์ที่มีลักษณะครึ่ง ๆ หรือลูกผสมระหว่างกีตาร์โปร่งกับกีตาร์ไฟฟ้า แต่ไม่ใช่กีตาร์โปร่งไฟฟ้า  แต่ Semi Acoustic กีตาร์จะมีลำตัวโปร่ง และแบนราบ มี pick up ติดอยู่บนลำตัว และมักจะมีช่องเสียงเป็นรูปตัว f เช่นเดียวกับแบบ arch top ซึ่งทำให้กีตาร์ประเภทนี้มีคุณสมบัติคือเล่นแบบต่อหรือไม่ต่อเครื่องขยายก็ได้

4.Solid Body Electric กีตาร์ ก็คือกีตาร์ไฟฟ้าที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้วซึ่งมีอยู่มากมายหลายแบบแต่ลักษณะเด่นก็คือลำตัวจะเป็นแบบตัน และประกอบด้วย pick up ซึ่งเป็นหัวใจของกีตาร์ไฟฟ้าอีก 2 หรือ 3 ชุด ไว้บนลำตัวกีตาร์สำหรับแปลงสัณญาณเสียงเป็นกระแสไฟฟ้าเข้าไปยังเครื่องขยายอีกที กีตาร์ประเภทนี้ต้องมีเครื่องขยาย มิฉะนั้นเวลาเล่นต้องเอาหูไปแนบใกล้ ๆ ตัวกีตาร์ถึงจะได้ยินเสียง แต่ข้อดีก็คือเราสามารถที่จะปรับแต่งเสียงของมันได้อย่างอิสระด้วยการควบคุมปุ่ม volume หรือ tone และยังใช้ร่วมกับ effect ต่าง ๆ ได้

5.Resonator กีตาร์ หรือ Resophonic กีตาร์ เป็นกีตาร์อีกประเภทที่เราไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก บางทีก็เรียกว่า dobro มีลักษณะเด่นคืออาศัย resonatorซึ่งจะทำให้เกิดเสียง resonance หรือขยายเสียงให้ดังโดยทำให้เกิด resonance มีทั้งแบบ tri-plate resonator คือมีเจ้า resonator 3 แผ่น และแบบ single-resonator คือมี resonator แผ่นเดียวนั่นเอง

6.กีตาร์ steel หรือ pedal steel guitar หลายคนอาจไม่คุ้นเคยกับเจ้ากีตาร์แบบนี้เท่าไรนัก ส่วนใหญ่กีตาร์แบบนี้จะเล่นในเพลงประเภท country และแบบฮาวายเป็นส่วนมากและเวลาเล่นก็จะเล่นด้วยการสไลด์

ขอบคุณ https://www.google.co.th/

ประวัติของกีต้าร์

กีต้าร์ถือเป็นเครื่องดนตรีที่มีมานานและมีความสำคัญในการเล่นดนตรีทุกๆเทศกาล สามารถใช้เล่นในการผ่อนคลาย หรือเล่นในงานสำคัญ รวมถึงการนำไปสู่การประกอบอาชีพได้อีกด้วย ดังนั้นการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกีต้าร์จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่สนใจในกีต้าร์ หรือสำหรับผู้ที่จะศึกษาเพื่อเป็นความรู้

ประวัติ

        เครื่องดนตรีตะกูลกีต้าร์นิยมมากกว่า 5,000 ปีเป็นอย่างต่ำ เริ่มนิยมในแถบเอเชียกลาง เรียกว่า
ซิตาร่า (Sitara) ส่วนเครื่องดนตรีที่มีรูปแบบคล้ายกีตาร์ที่เก่าแก่ที่สุดที่ค้นพบมีอายุ 3,300 ปี ซึ่งเป็นหินสลักของกวีอาณาจักรโบราณฮิตไตต์

       คำว่า “กีตาร์” มาจากภาษาสเปน ว่า กีตาร่า (Guitarra) ซึ่งเป็นคำที่มาจากภาษากรีกอีกทีนั่นก็คือคำว่า   คิทาร่า  (Kithara) ซึ่งก็คือกีตาร์ในยุคปัจจุบัน ชื่อนี้มาจากเครื่องดนตรีที่เรียกว่า ชิทาร่า (Cithara) ของชาวโรมัน ซึ่งนำเข้าไปแพร่หลายในอาณาจักรฮิสปาเนีย หรือสเปนโบราณ ประมาณ ค.ศ. 40 จากนั้นเปลี่ยนแปลงรูปแบบจนกลายมาเป็น เครื่องดนตรีที่มี 4 สายเรียกว่า อู๊ด (Oud) นำเข้ามาโดยชาวมัวร์ในยุคที่เข้ามาครอบครองคาบสมุทรไอบีเรียน 

       กีตาร์ไฟฟ้าตัวแรกเริ่มผลิตขึ้นในศตวรรษที่ 20 โดยจอร์จ โบแชมป์ (George Beauchamp) ได้รับสิทธิบัตรในปี 1936 และร่วมกับริกเค่นแบ็กเกอร์ (Rickenbacker) ตั้งบริษัท Electro String Instrument เป็นที่ผลิตกีตาร์ไฟฟ้าในช่วงปลายปีทศวรรษที่ 1930  และต่อมาในช่วงทศวรรษที่ 1960 จอห์น เลนนอน สมาชิกวงเดอะบีทเทิลส์ใช้กีตาร์ยี่ห้อนี้ ส่งผลให้เครื่องดนตรียี่ห้อนี้มีชื่อเสียงในกลุ่มนักดนตรีในยุคนั้น และในปัจจุบันบริษัทริกเค่นแบ็กเกอร์ก็เป็นบริษัทผลิตกีตาร์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาในเวลาต่อมา